Review หนัง 2017 The best is The Greatest Showman
Review หนัง 2017 The best is The Greatest Showman
จะมาพูดถึง หนังที่ชอบที่สุดประจำปี 2017 ที่เพิ่งผ่านมา เกือบจะจำไม่ได้แล้วว่าดูเรื่องอะไรไปบ้าง แต่มีเรื่องที่ชอบมากๆ อยู่ประมาณนี้ The Greatest Showman, Get out, Jumanji, IT, Dunkirk, Thor, Logan, War for the Planet of the Apes, Life, Despicable Me 3, Beyond Skyline อะไรประมาณนี้ ขี้เกียจคิดละ มันจะเยอะ
เรื่องของเรื่องก็คือ หนังที่ชอบมากที่สุดคือ The Greatest Showman นั่นเอง ปกติเป็นคนไม่ชอบดูหนังเพลง แล้วตอนดู Trailer ของเรื่องนี้ก็ดูไม่ออกว่าเป็นหนังเพลง รู้แต่ว่าตัวอย่างน่าดูมากกกกก และแค่ตัวอย่างเท่านั้นก็ทำให้ร้องไห้ได้แล้ว กับอิแค่ประโยคเด็ดๆ ไม่กี่ประโยคก็จี้ใจจนทำให้น้ำตาไหลออกมาได้
The Greatest Showman เรียกได้ว่าไม่ได้เป็นหนังที่ซับซ้อนอะไรมากมาย มันคือหนังเพลง หนังเพลงจริงๆ เพลงแบบอัดแน่นมาก และด้วยความที่เลือกที่จะไม่ดูหนังเพลง แต่พอมาเจอหนังเพลงเรื่องนี้กลับทำให้หลงรักได้อย่างง่ายดาย ทุกอย่างมันดี มันลงตัว เพลงเพราะ จังหวะมันได้ และให้เพลงเป็นตัวเล่าเรื่องทุกสิ่งอย่างในเรื่อง มันก็เลยอาจจะดูสั้นๆ รวบรัดไปนิด ถือว่าหนังสั้นมาก นี่อยากดูอีกยาวๆ (บางทีมันอาจจะกลายเป็นยืดเยื้อแทน)
ส่วนที่ทำให้จี้ใจใรแต่ละฉากละตอนก็คือพวกบทเพลงที่โผล่มาที ก็สะกิดต่อมน้ำตาแตกทุกที ไม่รู้เป็นบ้าอะไร ฟังไปดูไป น้ำตาไหลร้องห่มร้องไห้เหมือนคนบ้า ตาบวมเฉ่งแดงเหมือนกับเอาชีวิตตัวเองไปไว้ในเรื่อง ทั้งๆที่ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันซักนิดเดียว
อาจจะด้วยเพราะ ปกติเป็นคนที่ นับถือ ชื่นชอบผู้คนจาก "ความฝัน" ยิ่งมาเจอเนื้อเรื่องหนังที่ทำตามความฝันอะไรแบบนี้จะอินมาก ก็คือ ถ้าใครมีความฝันหรือเป้าหมายในชีวิตอะไรซักอย่างอยู่ และกำลังเดินทางตามความฝันของตัวเอง กำลังใช้ความพยายามของตัวเองเพื่อที่จะก้าวไปถึงจุดๆ นั้น มันเป็นอะไรที่น่าทึ่งมาก เชื่อว่าทุกคนมีความฝันกันมาตั้งแต่เด็กๆ เรามักจะถูกตั้งคำถามว่าอยากเป็นอะไรเมื่อโตขึ้นมา แต่ทุกอย่างก็เหมือนเป็นแพทเทิร์นของชีวิตที่ใครๆ ก็ต้องทำ เด็กๆ เรียนหนังสือ โตมาทำงาน ตามที่เรียนมา หรือไม่ได้เรียนมาก็ทำไปงั้นๆ เพื่อหาเงินใช้ชีวิตไปวันๆ หรือไม่ก็เก็บเงินเที่ยว มีแฟน แต่งงาน สร้างครอบครัว มีทายาท อะไรทุกอย่างแบบนี้มันเป็นแพทเทิร์นธรรมดาๆ ที่ใครๆ ก็เป็นได้
แต่การมีความฝันที่แตกต่าง และยิ่งใหญ่นี่สิ ไม่ใช่ใครจะมีได้ ไม่ใช่ใครจะทำได้ และไม่ใช่แค่เพื่อการมีเงิน การมีอำนาจ แต่เพื่ออะไรซักอย่างที่ลึกซึ่ง และมีความหมายกับใครซักคนหรืออะไรบางอย่างที่อาจจะจับต้องไม่ได้ แต่มันคือความสุขนี่แหละที่ยิ่งใหญ่ และจะรู้สึกอ่อนไหวกับเรื่องพวกนี้มาก
นั่นคือ เหตุผลที่ทำให้รักหนังเรื่องนี้มาก และนอกเหนือจากความเป็นหนังเพลง ในด้านเนื้อหา พล็อตของหนังก็ชอบเหมือนกัน มันไหลลื่น เรียบง่าย ไม่มีอะไรให้ผิดคาดมากนัก แต่ก็มีเสน่ห์ที่ทำให้หลงรักหนังเรื่องนี้ได้ง่ายๆ เหมือนกัน นอกจากนี้ก็ยังเป็นพวกนักแสดงที่มืออาชีพมากๆ โดยเฉพาะ Hugh Jackman ที่เคยเล่นหนังเพลงจาก Les Misérables (ซึ่งไม่เคยดู) Zac Efron ที่นึกว่าจะดีแต่หน้าหล่อและโชว์กล้ามไปมา มาเล่นเรื่องนี้ก็ทำให้ทึ่งเหมือนกัน และคนอื่นๆ อีกมากมายที่ดูแล้วไม่ค่อยมีอะไรขัดใจเท่าไหร่
และด้วยความเป็นหนังเพลง แน่นอนว่าต้องมีเพลงที่ชอบมากคือเพลง Tightrope นั่นเอง เพราะมาก และเป็นเพลงที่ทำให้ร้องไห้แทบตายตอนดูอยู่ในโรง
สรุปแล้ว 10/10++++++ ชอบมาก เพิ่งจะเจอหนังที่ชอบมากๆ แบบนี้ หลังจาก Mad Max : Fury Road เมื่อปี 2015
ส่วนเรื่องอื่นๆ ของปี 2017 ที่ชอบมาก (แต่อาจจะไม่ถึงขนาด The Greatest Showman) ก็น่าจะ Get Out นี่แหละ
Comments
© Masoul's BLOG. All Rights Reserved. Designed by HTML Codex